ก้านไม้กอล์ฟ เมื่อต้องเปลี่ยนต้องรู้ อะไรบ้าง
เพื่อนๆ หลายคน อาจจะยังไม่ทราบใช่ไหมครับว่า “ทำไม” เราถึงต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ เพราะจริง ๆ แล้วมันอาจจะทำให้ เราตีกอล์ฟ ได้ดีขึ้นมาก ๆ เลยครับ เพียงแค่เรามีความเข้าใจ ในการทำงานของก้าน และวิธีเลือก ในเบื้องต้นครับ
⭕️ในเรื่องที่ 1 เราควรที่จะรู้ในเรื่องของ (Flex) หรือว่า ความแข็งของก้าน โดยถ้าเป็นผู้หญิง จะเริ่มต้นที่ Flex L ในส่วนของ ผู้ชาย จะเริ่มต้นที่ Flex R เหมาะสำหรับมือใหม่ และ กลุ่มที่ ไม่ได้ มี Club Speed ที่สูงมากประมาณ 70 – 80 + ถัดไปก็จะเป็น Flex S เหมาะสำหรับ นักกอล์ฟ ที่มี Club Speed ที่เร็วขึ้นมาก ระดับกลางๆ ระดับประมาณ 90 – 100 mph และ สำหรับผู้ที่มี Club speed 100 -110 + mph จะเป็น Flex X จะแข่งขึ้นมากกว่า Flex S เหมาะหรับสาย จอมพลัง เพราะถ้าใช้ก้านที่อ่อน จะไม่สามารถ ควบคุมทิศทางของลูก ได้เลย ⬅️➡️
⭕️ในเรื่องที่ 2 จะเป็นในส่วนของน้ำหนักของก้าน ก็สำคัญไม่แพ้กันครับ เพราะถ้าใช้ก้านที่หนักหรือเบาเกินไป ก็จะส่งผลทำให้เรา ควบคุมวงสวิง และ ทิศทางของลูกได้ยาก โดย น้ำหนักของก้าน จะเริ่มที่ 40 กรัม ซึ่งน้ำหนักนี้ จะมีในก้านของ ผู้หญิง โดยส่วนใหญ่ ต่อมาที่ 50 – 60 กรัม จะเป็นน้ำหนัก ยอดนิยม ที่โดยส่วนใหญ่นักกอล์ฟจะเลือกใช้กัน เพราะเป็นน้ำหนักที่ไม่เบา หรือ หนักเกินไป ต่อมา 60 – 70 กรัม เหมาะสำหรับ คนที่มี Club Speed มากขึ้นมา โดยส่วนใหญ่ จะเป็นกลุ่มนักกอล์ฟอาชีพ หรือ นักกอล์ฟสมัครเล่นมือดี ที่มี Speed สูง และ ยังมี น้ำหนัก 80 – 100 กรัม + ซึ่งก็จะเหมาะกับการนำไปใส่ ในหัวไม้ Hybrid , Fairway wood , Iron เป็นต้น ✅
⭕️ในเรื่องที่ 3 เป็นเรื่องของ Kick point (จุดดีดของก้าน) ในเรื่องนี้ อาจจะมีหลายท่านที่ ไม่เคยทราบมาก่อนว่า เรื่องนี้ควรต้องรู้ด้วย แต่ก็อ่านไว้เป็นทางเลือก ในการเลือกอีกที ซึ่งในส่วนของ Kick point จะแบ่งออกเป็น Low Kick จะให้วิถีลูกที่ สูง และ Spin สูง จะเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหา ในการตีลูก ไม่ลอยจะทำให้ลูก ที่ลอยสูงขึ้น ในส่วนต่อมา Mid Kick จะให้วิถี ลูกปานกลาง Spin ปานกลาง
ซึ่ง ทั้ง 2 แบบที่ กล่าวมา จะพบเห็นได้ตามท้องตลาดทั่ว ๆ ไป เวลาที่เราซื้อไม้กอล์ฟ มาแล้วมีก้านติดมาด้วย จะเรียกว่าก้าน OEM (ก้านที่มาจากโรงงานโดยตรง) ซึ่งในแบบสุดท้าย ก็คือ High kick จะไม่ค่อยเห็นในท้องตลาดทั่วไป เพราะ เป็นการที่ให้ วิถีลูก ต่ำ และ Spin ที่น้อย ซึ่งจะไม่เหมาะกับนักกอล์ฟ สมัครเล่นสักเท่าไหร่ จึงนิยมใน กลุ่ม นักกอล์ฟที่มี Speed สูง เพราะชดเชย การเหินของลูกกอล์ฟ เพราะเมื่อมี Club speed ที่สูง ลูกก็จะมีสปินที่สูง และ วิถีลูก ที่ลอย จึงทำให้ ในส่วนนี้ จะเป็นก้านที่ โดยส่วนใหญ่เรียกว่า ก้านโม จะขายแยกเฉพาะก้าน แล้วนำมาประกอบใหม่ ✅
⭕️ในเรื่องที่ 4 เป็นเรื่อง ความยาวของก้าน มีความสำคัญ ไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ เลย เนื่องจาก ถ้าเกิดใช้ก้านที่ยาวเกินไป ก็จะไม่สามารถ ควบคุมจังหวะสวิง และ ทิศทางได้ หรือ บางคนใช้ก้านที่สั้นเกินไป ก็จะส่งผลทำให้ ระยะที่ออกไปนั้นสั้น ซึ่งในความเป็นจริงเรา อาจจะตีได้ระยะที่ไกลกว่านั้น ซึ่งในเบื้องต้น ผู้ชาย Driver จะอยู่ที่ 45 – 46 นิ้ว ผู้หญิง 42 – 43 นิ้ว โดยประมาณ ✅
⭕️ในเรื่องที่ 5 แรงต้านการบิดตัวก้าน (Torque) เป็นความต้านทานของการบิดตัวก้าน อาจเปรียบให้เห็นภาพลักษณะง่ายๆก็คล้ายการม้วนบิดผ้า (ที่รีดน้ำออก) ผ้าผืนเล็กบาง (บิดง่าย) ผ้าหนา (บิดยาก) และ มีค่าของการบิดตัวนี้ เป็นองศา (Degree) (Torque ในเหล็กประมาณ 2.5 – 3.5 องศา / กราไฟท์ อยู่ระหว่าง 3.5 – 5.5 หรือ 6.0 ) เพื่อให้เหมาะสมกับนักกอล์ฟในแต่ละคนที่มีความเร็วของวงสวิงที่ต่างกัน✅
👉ซึ่งในทุกเรื่องที่ กล่าวมา เป็นเพียงแค่ ปัจจัยเบื้องต้น ในการเลือกซื้อก้านของเพื่อนๆ เพื่อนำไปใช้ และประกอบ การตัดสินใจในการเลือกก้าน หวังว่าบทความนี้ จะเป็นประโยชน์ สำหรับเพื่อนที่กำลัง มีความคิดที่อยากจะเปลี่ยนก้าน และ คนที่กำลังพัฒนาวงสวิง แต่ไม่ทราบว่าเรื่องนี้ ก็มีความสำคัญมากๆ ครับ💯🏆
ติดต่อสอบถามได้ที่ : http://line.me/ti/p/@golfspaceacademy