ย้อนไปในสมัยก่อนกีฬากอล์ฟ ของชนชั้นสูง อุปกรณ์มีราคาแพง และเล่นกันเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ปัจจุบัน กอล์ฟเป็นกีฬาที่แพร่หลาย สามารถเล่นได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ไปจนไม่สามารถจับไม้กอล์ฟไหว สามารถเล่นด้วยกันได้ทั้งครอบครัว สร้างกิจกรรม และให้ความสนุกสนาน สามารถเล่นเองคนเดียว หรือ เล่นเป็นกลุ่มกับเพื่อนๆก็ได้ ทำให้ได้อยู่กับตัวเอง สร้างสมาธิ เราจึงมักเห็นนักกอล์ฟจะมีวิถีชีวิตที่ค่อนข้างจะอิสระ
นอกเหนือจากนั้น กอล์ฟยังเป็นกีฬาที่ใช้กล้ามเนื้อหลายส่วนพร้อมๆกัน ความยากง่าย จึงขึ้นอยู่กับทักษะเฉพาะส่วนบุคคล เราจึงเห็นอุปกรณ์กอล์ฟที่มีหลากหลายในท้องตลาด และมีราคาที่ย่อมเยา จนถึงแพงมาก จึงสังเกตได้ว่า กอล์ฟมีองค์ประกอบหลายส่วน มีรายละเอียดในการเล่น ดังนั้น หากใครที่สนใจกอล์ฟ บางคน ก็จะเริ่มจากการฝึกด้วยตนเอง หรือ ถามเพื่อนที่ตีเป็น ถูกบ้าง ผิดบ้าง และเมื่อมาถึงจุดหนึ่ง ที่เราอยากจะเล่นกอล์ฟจริงจัง คนส่วนใหญ่ก็เริ่มอยากจะเรียนกอล์ฟ แล้วการเรียนกอล์ฟ เหมือนกับการเรียนหนังสือ หรือ ทักษะอื่นๆหรือไม่ จะทำอย่างไรบ้างที่จะเรียนกอล์ฟให้ได้ผลอย่างที่เราต้องการ
1.ควรวางเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจน ว่าเรียนไปเพื่ออะไร
– เล่นกอล์ฟเพื่อออกกำลังกาย เล่นกับเพื่อน หรือเรียนแล้วเล่นกอล์ฟไม่บาดเจ็บ
– เล่นกอล์ฟเพื่อแข่งขันสู่ความเป็นเลิศ
– เล่นกอล์ฟเพื่อธุรกิจ ตีกับลูกค้า
– หรือนักกอล์ฟบางคนที่เล่นมานานแล้ว แต่ตีสกอร์ไม่ลด ก็ต้องปรึกษากับโปรหาข้อบกพร่อง
2.เรียนรู้และทำความเข้าใจในเนื้อหาที่โปรให้
– กอล์ฟเป็นกีฬาที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก เช่น การจับกริพ ท่าทางการยืน การวางตำแหน่งบอล การหมุนตัว หรือรายละเอียดในเรื่องวงสวิงที่ต้องมีการโฟกัสของการเคลื่อนไหวในหลายๆส่วน การที่จะเรียนให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น ผู้เรียนควรจะต้องเข้าใจไปพร้อมๆกับการสอนของโปรเพื่อให้ความรู้สึกของผู้เรียนสื่อออกมาเป็นท่าทางที่โปรผู้สอนต้องการ แล้วนักเรียนจะเข้าใจว่าความรู้สึกกับท่าทางที่โปรให้มันเป็นอย่างไร แล้วจะเกิดทำให้การพัฒนาสวิงในตัวท่านนักกอล์ฟทำได้ง่ายและไวมากขึ้น
3.ซ้อมและหมั่นทำแบบฝึกหัด
– ทำแบบฝึกหัดที่โปรให้ จะเป็นส่วนในท่าท่างแบบฝึกที่เรียนที่โปรให้นำกลับมาฝึกทบทวนที่สนามไดร์ฟในวันที่ไม่ได้มีเรียนหรือฝึกซ้อมที่บ้าน
– ซ้อมในจุดที่เราบกพร่อง จะทำให้แก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น
4.ทบทวนบทเรียนสม่ำเสมอ
– ทบทวนคลิป VDO ที่โปรส่งให้ และทำความเข้าใจซ้ำหลายๆรอบ
– ซ้อมที่บ้าน ซ้อมหน้ากระจก เพื่อเกิดการจดจำของกล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหว
5.เก็บบันทึกข้อมูล และสถิติการเล่นแล้วนำมาปรึกษาโปร
– เก็บข้อมูลในการเล่นออกรอบในแต่ละครั้ง ข้อมูลจำพวกเช่น ตีไดร์เวอร์อยู่แฟร์เวย์กี่แฟร์เวย์ ตีออนกรีนกี่กรีน สามารถทำชิพเดียวพัตเดียวได้กี่หลุม และจำนวนพัตต่อรอบกี่พัต ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นตัวฟ้องว่าท่านนักกอล์ฟต้องกลับมาพัฒนาด้านไหนต่อ และทางโปรผู้สอนจะสามารถออกแบบการสอนและการฝึกได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น
6.อดทนและกล้าที่จะปรับเปลี่ยนสิ่งที่ขัดกับความรู้สึกตัวเอง
– กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักกอล์ฟที่มาปรับแก้สวิง เนื่องจากวงสวิงเก่าที่เล่นเป็นการจดจำของกล้ามเนื้อที่ผิดมานาน การนำข้อมูลสิ่งใหม่ๆเข้าไปย่อมจะเกิดความขัดจากความรู้สึกเดิม ต้องอดทนและกล้าที่จะปรับเปลี่ยนสิ่งที่ขัดกับความรู้สึกตัวเองครับ
7.หาความรู้เพิ่มเติม จากสื่อต่างๆ
– ดูการแข่งขันกอล์ฟ ในเรื่องของวิธีการเล่น การวางแผนการเล่น และการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ
– หาหนังสือกอล์ฟมาอ่าน เพื่อจะได้แง่คิดและแนวความคิดหลายๆด้าน
– สื่อออนไลน์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับกอล์ฟ เช่น YouTube นิตยสารกอล์ฟ หรือบทความต่างๆ
8.กล้าที่จะถามโปร
– การสงสัยแล้วไม่กล้าถามโปรจะเป็นกับดักการพัฒนาที่สำคัญสำหรับท่านนักกอล์ฟ การถามหรือการสื่อสารกันจะทำให้เกิดการพัฒนาได้เร็วมากขึ้น
9.ไม่รีบร้อนจนเกินไป ให้ระยะเวลาเป็นตัวกำหนด
– สำหรับมือใหม่เราควรวางเป้าหมายเป็นช่วงๆไปว่า 3 เดือน 6 เดือน 1 ปีแรกของการเรียนกอล์ฟเป็นอย่างไร ไม่ควรรีบร้อนควรปูพื้นฐาน Basic ที่ดีต่างๆให้แน่นเสียก่อนเช่น การเรียนรู้สวิง การเรียนรู้การเล่นลูกสั้น การเรียนรู้กฎกติกามารยาท แล้วค่อยๆเน้นการเล่นออกรอบในสนามจริงมากขึ้น
– สำหรับนักกอล์ฟที่เล่นมานานที่ต้องการพัฒนาวงสวิงของตนเอง ควรต้องให้เวลาตัวเองในการเรียนรู้และปรับข้อที่ต้องแก้ไขให้ถูกต้องเสียก่อน ร่วมทั้งให้เวลาในการฝึกซ้อมตามแบบฝึกที่โปรต้องการให้ปรับให้ดีเสียก่อน แล้วค่อยกลับไปเล่นควบคู่กับการมาปรับแก้ไขแบบต่อเนื่อง ก็จะทำให้ท่านนักกอล์ฟมีพัฒนาการที่ดีขึ้นครับ
10.หมั่นชาเลนจ์ตัวเอง แข่งกับตัวเอง
– ไม่ว่าในการซ้อม หรือการออกรอบเล่นในสนามจริง อยากให้เกิดการแข่งขันกับตัวเอง เพื่อจะเป็นแรงผลักดันให้ตัวท่านนักกอล์ฟเกิดการพัฒนาได้ง่ายมากยิ่งขึ้นครับ
Pro Mac…